คาร์ล ลาร์สสัน (อังกฤษ: Carl Larsson) (28 พฤษภาคม ค.ศ. 1853 - 22 มกราคม ค.ศ. 1919) เป็นจิตรกรและนักตกแต่งภายในชาวสวีเดนของคริสต์ศตวรรษที่ 19 และ 20 ผู้มีบทบาทสำคัญในขบวนการศิลปะหัตถกรรม
คาร์ล ลาร์สสันเกิดในบริเวณเมืองเก่าของสตอกโฮล์ม บิดามารดาของลาร์สสันมีฐานะยากจนแสนเข็ญ ชีวิตในวัยเด็กเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยความทุกข์ เรนาเต พูโวเกิลในหนังสือ “Larsson” กล่าวถึงชีวิตยามเยาว์วัยว่า “แม่ถูกไล่ออกจากบ้านพร้อมด้วยคาร์ลและน้องชายโยฮัน หลังจากย้ายจากบ้านที่อยู่ชั่วคราวหลายหลังครอบครัวก็ย้ายไปอยู่ที่ในปัจจุบันคือเอิร์สเตอร์มาล์ม ที่พำนักนี้แต่และห้องก็อยู่ด้วยกันสามครอบครัว สภาพที่้ทั้งเสื่อมโทรมทั้งโสโครกที่บั่นทอนทั้งร่างกายและจิตใจ สภาวะดังกล่าวเป็นแหล่งเผยแพร่โดยธรรมชาติของอหิวาตกโรค”
บิดาของคาร์ลเป็นคนไม่เอาถ่านผู้ทำงานเป็นกรรมกร ทำงานในเรือเป็นคนเติมถ่านหินบนเรือที่วิ่งไปยังสแกนดิเนเวีย และหลุดข้าเช่าที่โรงสีที่อยู่ไม่ไกลนัก ในที่สุดก็กลายเป็นเพียงคนแบกข้าว ลาร์สสันกล่าวถึงบิดาว่าเป็นผู้ปราศจากความรัก, ผู้ขาดการควบคุมตนเอง เป็นคนติดเหล้า, โวยวายเสียงดัง และ มีความโกรธเกลียดลาร์สสันจนตลอดชีวิต เมื่อกล่าวว่า “ฉันสาปแช่งวันที่เจ้าเกิด” ส่วนแม่ต้องเป็นผู้เลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอดจากการทำงานเป็นคนซักผ้า
พรสวรรค์ทางศิลปะของลาร์สสันอาจจะมาจากตาผู้เป็นจิตรกร เมื่ออายุได้ 13 ยาค็อปสันผู้เป็นครูที่โรงเรียนสำหรับเด็กยากจนก็ยุให้ลาร์สสันสมัครทุน "principskola" ของราชสถาบันศิลปะสวีเดน ซึ่งงลาร์สสันก็เข้าได้ ระหว่างปีสองปีแรก ลาร์สสันมีความรู้สึกมีฐานะด้อยทางสังคม, สับสน และ ขี้อาย ในปี ค.ศ. 1869 เมื่ออายุได้ 16 ปีลาร์สสันก็ได้เลื่อนไปเข้า "antique school" ในสถาบันเดียวกัน ตั้งแต่นั้นลาร์สสันก็เริ่มมีความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น และถึงกับเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในชีวิตของนักศึกษา ลาร์สสันได้เหรียญรางวัลแรกจากงานลายเส้นภาพเปลือย ในช่วงเดียวกันก็ทำงานเป็นนักเขียนภาพล้อเลียนบุคคลสำหรับหนังสือพิมพ์ชวนขัน "คาสเปอร์" และศิลปินคลาสสิกสำหรับหนังสือพิมพ์ "Ny Illustrerad Tidning" เงินเดือนประจำปีที่ได้มาก็พอเพียงสำหรับช่วยเหลือจุนเจือบิดามารดาด้วย
หลังจากทำงานอยู่หลายปีเป็นนักเขียนภาพประกอบหนังสือ, นิตยสาร และ หนังสือพิมพ์แล้วลาร์สสันก็ย้ายไปยังกรุงปารีสในปี ค.ศ. 1877 ไปใช้เวลาอันลำบากเป็นศิลปินที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก ลาร์สสันไม่มีความกระตือรือร้นที่จะทำความรู้จักกับศิลปินหัวก้าวหน้ากลุ่มอิมเพรสชันนิสม์ ได้แต่คบหากันอยู่ในหมู่ศิลปินสวีเดนด้วยกัน และปิดทางตนเองจากขบวนการทางศิลปะที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในกรุงปารีสในขณะนั้น
หลังจากใช้เวลาสองฤดูร้อนอยู่ที่บาร์บิซงซึ่งเป็นที่พำนักของศิลปินนอกสถานที่ ลาร์สสันก็กลับไปตั้งถิ่นฐานอยู่ในหมู่เพื่อนจิตรกรสวีเดนด้วยกันในปี ค.ศ. 1882 ที่เกรซ-เซอร์-ลอยนจ์ ซึ่งเป็นที่อยู่ของหมู่ศิลปินสแกนดิเนเวียนอกกรุงปารีส ที่ที่เกรซ-เซอร์-ลอยนจ์ลาร์สสันได้มีโอกาสทำความรู้จักกับเพื่อนศิลปินคาริน แบร์กูอูผู้ต่อมามาเป็นภรรยา จุดนี้เป็นจุดที่ชีวิตเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ที่เกรซลาร์สสันเขียนงานบางชิ้นที่เป็นงานสำคัญ ซึ่งเป็นงานสีน้ำที่ต่างเป็นอย่างมากจากวิธีการเขียนด้วยสีน้ำมันที่เคยเขียนมาก่อน
คาร์ลและคารินมีบุตรธิดาด้วยกันแปดคน และครอบครัวกลายเป็นแบบวาดอันสำคัญของลาร์สสัน ในปี ค.ศ. 1888 ครอบครัวลาร์สสันก็ได้รับบ้านหลังเล็กๆ จากบิดาของคารินชื่อ “Little Hyttnäs” ที่ซุนด์บอร์น คาร์ลและคารินตกแต่งบ้านตามรสนิยมศิลปินของตนเอง และตามความจำเป็นของครอบครัวที่เติบโตขึ้น
ผลงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น